ผมสวยน่าสัมผัส คือ เสน่ห์ของผู้หญิงที่สาวๆ หลายคนปรารถนา เรามาดูกันว่ามีวิธีดูแลผมให้สวย เงางาม มีน้ำหนักราวกับว่าเพิ่งออกมาจากซาลอนได้ยังไง รับรองเลยว่า ถ้าหากหมั่นทำตามแล้ว ผมจะดูสุขภาพดี จนเป็นที่อิจฉาของผู้ที่พบเห็นอย่างแน่นอน มาสังเกตุและย้อนดูตัวเองว่า ปัญหาผมต่างๆ ที่สาวๆ มักพบเจอ มาจากการดูแลแบบผิดๆ ของเราเองหรือไม่ พร้อมบอก “วิธีดูแลผม” แบบเบื้องต้นง่ายๆ ก่อนตัดสินใจว่าจะต้องเข้าร้านทำผมไปทำทรีทเม้นท์แพงๆ หรือไม่?
ลองไปทำด้วยตัวเอง แล้วคุณจะเห็นผลลัพธ์ทันใจ ทำได้ง่ายๆโดยไม่ต้องจ่ายเงินแพงๆ แล้วจะใด้ผมสวยได้ภายในพริบตา!
วิธีดูแลเส้นผม แบบเบสิก

- อย่าสระผมทุกวัน : การสระผมทุกวันไม่ได้ช่วยให้ผมสุขภาพดีอย่างที่คิด การสระผมบ่อย ๆ ทุกวัน จะเป็นการทำร้ายเส้นผมทำให้ผมอ่อนแอ เพราะไขมันที่เคลือบอยู่บนเส้นผมจะถูกชำระล้างออกไป นาน ๆ เข้าทำให้กลายเป็นปัญหาหนังศีรษะแห้งจนเป็นรังแคได้ง่าย เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเลิกสระผมทุกวันเสียเถอะนะคะ แล้วเปลี่ยนมาสระผมวันเว้นวันก็เพียงพอแล้ว
- บำรุงผมด้วยครีมนวดทุกครั้งหลังสระผม : ควรบำรุงเส้นผมด้วยครีมนวด เพราะครีมนวดจะช่วยปิดเกล็ดเส้นผมหลังสระ ทำให้เส้นผมนุ่มสสวย เงางาม มีน้ำหนัก ไม่ชี้ฟู บำรุงให้เส้นผมได้รับสารอาหารบำรุงที่เพียงพอ และยังช่วยลดปัญหาผมแตกปลาย ช่วยป้องกันผมแห้งเสียจากการโดนความร้อนได้ดีอีกด้วย แต่พยายามอย่าลงครีมนวดที่บริเวณหนังหัวโดยตรง เพราะจะทำให้เกิดปัญหาผมมันได้ง่าย
- สระผมและล้างเส้นผมด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง : การใช้น้ำร้อนในการสระผมจะทำให้หนังศีรษะแห้งและเส้นผมแห้งเสียได้อย่างน่าตกใจ อีกทั้งความร้อนยังไปทำลายสารบำรุงจากครีมนวดอีกด้วย ดังนั้น เราจึงควรสระผมและล้างผมด้วยน้ำเย็นเป็นดีที่สุด ในทางกลับกันการใช้น้ำเย็นจะเป็นมิตรต่อผมมากกว่า แถมยังช่วยล็อกความชุ่มชื้นในผม ทำให้ผมเงางาม และไม่ทำให้ผมเปราะหักง่าย แล้วเก็บกักความชื้นเอาไว้นั่นเอง
- เลือกแชมพูให้ถูกกับสภาพผมและหนังศีรษะ : ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะส่วนหนึ่งมาจากการเลือกใช้แชมพูที่ไม่เหมาะกับสภาพผมและหนังศีรษะของเรา จนบางครั้งเกิดอาการแพ้ เกิดปัญหารังแค ผมแห้ง ผมมัน หรือแม้แต่ผมชี้ฟูมากขึ้นกว่าเดิมอีก ดังนั้น ก่อนซื้อแชมพูสระผม เราควรเลือกซื้อให้เหมาะกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของเราทุกครั้ง ทั้งนี้ ควรเลี่ยงยาสระผมที่มีส่วนผสมบางอย่างที่อาจทำลายเส้นผม เช่น แอมโมเนียม ลอริล ซัลเฟต (Ammonium Lauryl Sulfate) หรือสารเอสแอลเอส (Sodium Lauryl Sulfate: SLS)
- หวีผมอย่างเบามือ : แม้ว่าจะเร่งรีบสักแค่ไหน แต่คุณก็ไม่ควรรีบหวีผมให้เร็วและแรงจนเกินไป ควรหวีผมอย่างอ่อนโยนเบามือ ควรรอให้เส้นผมแห้งเสียก่อน แล้วจึงค่อยหวีผม อีกทั้งการเลือกใช้หวี ควรเลือกหวีที่มีซี่ห่าง ไม่งั้นละก็ผมของคุณคงหลุดร่วงออกมาเป็นกำเลยล่ะ เพราะการที่หวีผม ขณะผมเปียกเป็นช่วงเวลาที่รากผมกำลังอ่อนแอ หากใครผมร่วงบ่อยหรือมีปัญหาผมบาง ลองสังเกตพฤติกรรมการหวีผมของตัวเองให้ดี แล้วรีบแก้ไข และควรหวีผมแบบเบามือจากปลายผมแล้วค่อยเลื่อนไปถึงที่โคนผม เพื่อช่วยลดปัญหาผมพันกัน ผมขาดหลุดร่วง และลดการเสียดสีของเส้นผมที่อาจทำให้ผมเสียได้
- ปล่อยผมแห้งตามธรรมชาติ หรือเป่าผมด้วยลมเย็น : การใช้ไดร์เป่าผมทำให้ผมของคุณแห้งเสียอย่างมาก เอาเป็นว่าลองปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติบ้าง และก็ไม่ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดหัวแรง ๆ ด้วยนะ เพราะจะทำให้รากผมอ่อนแอจนผมเปราะหักง่าย แค่เช็ดหมาด ๆ อย่างเบามือแล้วปล่อยให้แห้งเองก็พอแล้ว แต่สำหรับท่านใดเร่งรีบจนจำเป็นต้องใช้ไดร์เป่าผมควรใช้ลมเย็นในการเป่าแทนลมร้อน เพราะลมร้อนจะทำให้เส้นผมสูญเสียน้ำแล้วทำให้ผมแห้งเสียได้ง่าย
- เล็มปลายผมและผมแตกปลายบ่อย ๆ : คุณอาจจะคิดว่าผมยาวพอดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องตัดหรือเล็มให้เข้าทรงอีก แต่ความจริงคุณควรจะเล็มผมทุกๆ เดือน สาวๆ ที่ผมยาวแล้วพบปัญหาผมแตกปลาย อันเนื่องจากสารอาหารผมไปหล่อเลี้ยงเส้นผมไม่เพียงพอ ดังนั้นเราควรหมั่นเล็มปลายผมเรื่อย ๆ ทุกเดือน หรือตัดผมทุก 3 เดือน พื่อตัดปลายผมที่แห้งเสียและขาดความชุ่มชื้นออกไป
- รับประทานอาหารดี ๆ และมีประโยชน์กับเส้นผม : รู้หรือไม่ว่าอาหารที่ดีสามารถช่วยบำรุงผมได้จากภายใน ลองเน้นการกินผักและผลไม้สด ๆ เพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ นอกจากนี้พวกปลาแซลมอนหรือถั่วก็ดีต่อผมเหมือนกันนะคะ แถมยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ในไข่มีโปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในเส้นผม และมีไบโอตินที่ช่วยเพิ่มความเงางามของเส้นผม แครอทมีวิตามินเอช่วยให้เส้นผมและรากผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย เมล็ดฟักทอง แหล่งอาหารสำคัญของเส้นผม ที่มาพร้อมโปรตีนและโอเมก้า 3 ธาตุเหล็กและสังกะสี ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นวิธีดูแลผมจากภายในที่อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่รับรองว่าได้ผลจริงในระยะยาว
- บำรุงผมด้วยน้ำมันหลากชนิด : สาว ๆ ท่านใดอยากให้ผมจัดเรียงสวย เงางาม มีน้ำหนัก ควรทำทรีตเมนต์ให้ได้สัก 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หมักไว้นานสัก 10 – 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดเกล็ดผม เก็บสารบำรุงและน้ำให้กับเส้นผม ช่วยคืนความเงางามให้เส้นผมและผมดูสุขภาพดี วิธีที่หลายคนเลือกใช้ ในการบำรุงผมอย่างสม่ำเสมอด้วยบรรดาน้ำมันต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อผม ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะพร้าวที่ช่วยให้ผมนุ่มสลวย น้ำมันมะกอกเพื่อผมเงางาม และน้ำมันอัลมอนด์เพื่อให้ผมแข็งแรง เพียงเท่านี้ผมของคุณก็จะสลวยสวยเก๋จนน่าอิจฉา
- ปกป้องเส้นผมขณะว่ายน้ำ : สาว ๆ ที่ชอบว่ายน้ำฟังให้ดี เพราะคลอรีนในน้ำสามารถทำให้ผมคุณเสียอย่างคาดไม่ถึง ทางที่ดีควรสวมหมวกว่ายน้ำตอนลงสระ เมื่อขึ้นมาแล้วก็ให้รีบสระผมอย่างด่วนเลยนะคะ
ไม่แปลกใจเลยใช่ไหมล่ะว่าทำไมผมของคุณดูไม่นุ่มสลวยสวยเก๋อย่างที่ต้องการเสียที ก็เพราะหากคุณยังดูแลผมอย่างง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้ ก็คงไม่มีอะไรมาช่วยฟื้นฟูสภาพผมของคุณได้แน่นอน
ว่าแล้วใครที่ยังดูแลผมด้วยวิธีแบบผิด ๆ อยู่ ก็ขอให้หยุดและเปลี่ยนพฤติกรรม แล้วหันมาใส่ใจการบำรุงดูแลเส้นผมอย่างเคร่งครัดตามที่เราได้แนะนำไปข้างต้น เพียงเท่านี้เส้นผมเราก็จะกลับมานุ่ม สวย ดูสุขภาพดีกันแล้วล่ะค่ะ และก็ขอให้หยุดและเปลี่ยนพฤติกรรม แล้วผมของคุณจะสวยงามและมีสุขภาพดียาวนาน
สาเหตุของผมแห้ง แตก เสีย

แสงแดดและสภาพอากาศ : แสงแดดมีประโยชน์นั้น ใครๆ ก็รู้ แต่ถ้าแพลนจะไปนอนชิวๆ ที่ชายหาดหรือ ช้อปปิ้งจตุจักร หมวกหรือผ้าคลุมผมเก๋ๆ ไปเป็นตัวช่วยชั้นดี ในการปกป้องเส้นผม เพราะรังสีอัลตราไวโอเลต ที่มากเกินไปนั้นทำลายเส้นผมชั้นนอก และถ้ายิ่งผ่านการทำสีมาแล้วล่ะก็ อ่ะฮ่า บอกได้เลยว่าโอกาสพังมากกว่าปัง และรังสี UV จะยังส่งผลให้โปรตีนเคราตินในเส้นผมถูกทำลายไป จนทำให้เส้นผมเกิดความแห้งกร้านในที่สุด
วิธีหลีกเลี่ยง : หากมีความจำเป็นที่จะต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือเจอแดดบ่อยๆ ควรฉีดสเปรย์หรือเซรั่มป้องกันแสงแดด และสวมหมวกปกปิดหรือกางร่มเมื่อออกจากบ้าน และหลังการสระผมทุกครั้งควรใช้ครีมนวดบำรุงผม เพื่อป้องกันการชี้ฟูของเส้นผม ก็จะช่วยป้องกันแสงแดดไม่ให้ทำร้ายเส้นผมจนแห้งกรอบได้แล้ว
การมัดผมรวบตึงเป็นประจำ : สำหรับคนที่มัดผม และรวบผมตึงแน่นเป็นประจำ รู้หรือไม่ว่าอาจก่อให้เกิดผมเสียโดยที่หลายๆคน อาจจะคาดไม่ถึง เพราะการที่เรามัดผมไปตึงเกินไป จะสร้างแรงดึงให้กับเส้นผมเป็นอย่างมาก และอาจจะไปทำร้ายรูขุมขน เส้นผมจนอาจถึงขั้นหลุดร่วงได้ ทำให้เส้นผมไม่มีอากาศหายใจ ส่งผลให้เส้นผมไม่สวยงามตลอดเส้นและอาจจะเป็นสาเหตุให้ผมขาดอีกด้วย
วิธีหลีกเลี่ยง : ไม่ควรรวบผมตึงบ่อยจนเกินไป แต่ควรปล่อยให้เส้นผมได้ผ่อนคลายด้วยการปล่อยผมบ้างบางเวลา หรือจะลองมัดหลวมๆ ก็มีแบบให้ทำมากมายที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้ หรือลองหันมามัดผมเพียงครึ่งศีรษะเท่านั้นก็เป็นทางเลือกที่ดีที่ควรทำ

การทำเคมีและการย้อมสีผม : น้ำยาดัดและน้ำยายืดเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดผมเสียได้ เพราะสารที่อยู่ในน้ำยาจะเปลี่ยนรูปร่างของเส้นผม ซึ่งจะทำให้เส้นผมเปราะบางมากยิ่งขึ้น ส่วนการย้อมสีผมก็ทำให้ผมเสียได้เช่นกัน เพราะน้ำยาย้อมผมมีส่วนประกอบของสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดและด่าง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมเสีย ผมร่วง และทำให้รากผมอ่อนแอลง ถ้าหนักหน่อยก็ผมเสียเป็นวุ้น ยิ่งแก้ไขได้ลำบาก หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้หาเซรั่มหรือทรีทเม้นท์มาเป็นตัวช่วยในการบำรุงผมอยู่เป็นประจำ และไม่ควรทำผมด้วยการใช้สารเคมีบ่อยเกินไป แต่ถ้ามันอดไม่ได้จริงๆ ก็แนะนำว่า ให้สาวๆ แก้ที่ปลายเหตุแทน โดยการเลือกผลิตภัณฑ์ดีๆ มาบำรุง ยอมจ่ายแพงหน่อยเพื่อเข้าร้าน ทำทรีทเม้นท์ ก็เป็นการดีนะ
วิธีหลีกเลี่ยง : ควรเว้นระยะการทำเคมี ไม่ว่าจะเป็น การดัด การยืด หรือย้อมสีผม เป็นเวลา 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ หรือดีที่สุดคือประมาณ 6 เดือน เพื่อให้เส้นผมได้พักและฟื้นตัวเอง ควรเลือกน้ำยาย้อมสีผมที่ไม่มีอันตรายรุนแรงเช่น ไม่มีส่วนผสมของเกลือ หรือสารเคมีที่อันตรายอย่างสารตะกั่ว และปรอทเป็นส่วนประกอบหลัก และควรเลือกซื้อตามร้านจำหน่ายที่สะอาดและปลอดภัยไว้ใจได้ และที่สำคัญไม่ควรย้อมสีผมบ่อยเกินปีละ 9 ครั้ง
การใช้น้ำอุ่นสระผม : น้ำอุ่นจะล้างคอนดิชันเนอร์ที่ช่วยปกป้องและบำรุงเส้นผมออกไปด้วย ซึ่งจะส่งผลทำให้เส้นผมแห้งมากขึ้น หนังศีรษะแห้ง เกิดปัญหารังแคได้ง่าย และสูญเสียความมันที่หล่อเลี้ยงเส้นผม และนำไปสู่ผมเสียในที่สุด
วิธีหลีกเลี่ยง : เลือกใช้น้ำเย็นเวลาสระผม หรือใช้ทั้งน้ำอุ่นและน้ำเย็นควบคู่กันไป โดยไม่ควรใช้น้ำอุ่นที่มีความร้อนเกินไป และหลังจากการบำรุงด้วยครีมนวดผมก็ควรใช้น้ำเย็นในการล้างออกเท่านั้น

ใช้อุปกรณ์ทำผมไฟฟ้าบ่อยเกินไป : เครื่องหนีบผม เครื่องม้วนผม หรือไดร์เป่าผม เป็นต้น เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้จะใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผม ซึ่งความร้อนที่ได้รับล้วนมีผลต่อเส้นผมคือ ทำให้เส้นผมแห้งเสียได้ง่าย และหากใช้บ่อยๆ อาจจะทำให้ผมแตกปลาย หนังศีรษะแห้ง คัน ขาดความชุ่มชื่น และเส้นผมหลุดร่วงจากหนังศีรษะได่ง่ายอีกเช่นกัน
วิธีหลีกเลี่ยง : อย่าจ่อไดร์เป่าผมที่หนังศีรษะ และอย่าใช้ไดร์เป่าผมนาน หรือมากจนเกินไป
ทานอาหารรสจัด : อันนี้หลายคนเริ่มสงสัยอาจจะคาดไม่ถึงว่าอาหารการกินจะส่งผลกับการหลุดร่วงของเส้นผมเราได้ อาหารรสจัดจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เส้นเลือดหดตัวลง เป็นผลทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผมได้น้อยลง และทำให้รากผมไม่แข็งแรงเท่าที่ควรจะเป็น
วิธีหลีกเลี่ยง : หลีกเลี่ยงในการทานอาหารรสจัด และทานอาหารที่มีประโยชน์กับเส้นผม อาจจะนานสักหน่อยแต่เห็นผลอย่างชัดเจน เช่น ทานไข่ไก่ ทุกวัน วันละ 1-2 ฟองประมาณ 1 เดือน

ผมแห้งเสียจากความเครียด : หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่า ความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมแห้งเสียได้ เพราะความเครียดมีผลทำให้ระบบฮอร์โมนในร่างกายต่ำลง จึงทำให้สารอาหารส่งไปเลี้ยงเส้นผมได้ไม่เพียงพอ จนเส้นผมขาดสารอาหาร ส่งผลทำให้เส้นผมแห้งเสีย หยาบกระด้าง ไร้น้ำหนักได้ หรือหนักๆ เข้าก็อาจทำให้ผมร่วงเลยก็มี
วิธีหลีกเลี่ยง : ที่มีสาเหตุมาจากความเครียด ก็ควรต้องจัดการที่ต้นตอเสียก่อน โดยการนอนหลับให้เพียงพอ หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ หรือหาที่ปรึกษาที่ช่วยลดภาวะความเครียดลงได้
เคล็ดลับการดูแลเส้นผม

- บดกล้วยครึ่งลูก ผสมกับน้ำมันมะกอก และไข่ขาวอีก 2 ฟอง นำส่วนผสมที่ได้หมักผมไว้ 15 นาทีแล้วจึงค่อยล้างออกและสระบำรุงตามปกติ เส้นผมของคุณจะแข็งแรงและนุ่มสลวยยิ่งขึ่น
- เลือกหวีให้ถูกประเภท ถ้าอยากให้ผมตรงสลวย ควรใช้หวีซี่ห่าง จะช่วยให้หวีง่ายขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้หวีซี่ถี่ ๆ เล็ก ๆ เพราะอาจทำให้เกล็ดผมฉีก ผมขาดร่วง หรือหนังศีรษะถลอกได้ นอกจากนี้ถ้าอยากให้ผมตรงสวย ไม่ควรใช้หวีแปรงแบบกลม เพราะจะเป็นการม้วนดัดปลายผม แต่ที่สำคัญเลยคือ ไม่ควรหวีผมทันทีหลังการสระ เพราะเส้นผมที่เปียกจะมีความเปราะบางเป็นอย่างมากค่ะ
- ปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติ ล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติ ซึ่งหากอยากจัดผมให้ตรงสวย ควรหวีผมทุก ๆ 5 นาที โดยแบ่งเส้นผมหลาย ๆ ช่อ แล้วหวีตรงลงมา หรือจะใช้ไดร์เป่าผมร่วมก็ได้ แต่ให้ใช้ลมเย็นเท่านั้นนะคะ
- ใช้ผ้าขนหนูซับผม หลังจากสระผมเสร็จแล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนูค่อย ๆ ซับน้ำส่วนเกินออกจากเส้นผมเบา ๆ ห้ามถู ขยี้ หรือม้วนผมเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผมเปราะขาดหลุดร่วงง่าย แถมยังทำให้ผมชี้ฟูอีกด้วยค่ะ
- ผสมน้ำมะนาวลงในคอนดิชั่นเนอร์ ที่จะใช้บำรุงเส้นผม แล้วหมักผมทิ้งไว้ซักพัก จึงค่อยล้างออก วิธีนี้จะช่วยทำให้เส้นผมเงางามขึ้น
- บำรุงผมให้นุ่มมีวอลุ่ม โดยหมักด้วยอะโวคาโด บดผสมกับน้ำมันมะกอกทิ้งไว้ 20 นาที แล้วค่อยสะออกทำซักเดือนละครั้ง จะเห็นผลทันตาเลยล่ะ
- อย่าสระผมก่อนลงเล่นน้ำในสระหรือในทะเล เพราะคลอรีนและเกลือจะทำให้เส้นผมของคุณแห้งเสีย ให้ลงทั้งที่ยังไม่ได้สระผม เพื่อให้น้ำมันจากหนังศีรษะตามธรรมชาติช่วยปกป้องลดการกัดของน้ำอีกชั้นหนึ่งจะดีกว่า
- ก่อนหนีบหรือม้วนผม ควรฉีดสเปรย์ปกป้องความร้อนก่อนทุกครั้งเพื่อช่วยลดปัญหาผมเสียอีกทาง
บทสรุป
หากใครอยากเปลี่ยนผมเสียให้กลับมามีเส้นผมที่สวย สุขภาพดีและเงางามได้อีกครั้ง ก็นำ เคล็ดลับผมสวยของเราไปบำรุงและดูแลผมของคุณ โดยวิธีในการดูแลผมของเรานั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆ และจำให้ขึ้นใจเลยนะคะว่า ผมเราจะสุขภาพดีขึ้นได้นั้น ต้องเกิดจากการใส่ใจ บำรุง อย่างสม่ำเสมอ ก็เพราะหากคุณยังดูแลผมอย่างง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้ ก็คงไม่มีอะไรมาช่วยฟื้นฟูสภาพผมของคุณได้แน่นอน ว่าแล้วใครที่ยังดูแลผมด้วยวิธีแบบผิด ๆ อยู่ ก็ขอให้หยุดและเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อผมที่สวยงามของคุณเถอะนะคะ